ชื่ออาชีพ จักษุแพทย์ Ophthalmologist
นิยามอาชีพ
ลักษณะของงานที่ทำ
- ตรวจสายตา และสั่งให้ทำแว่นตา หรือให้การรักษาตาด้วยวิธีการให้ยาหรือผ่าตัด
- ตรวจสายตาให้ทราบข้อบกพร่องโดยใช้เครื่องมือ และวิธีการทดสอบต่างๆ
- สั่งขนาดของเลนซ์สำหรับประกอบแว่นตา
- ให้คำแนะนำในการฝึกสายตาตามความจำเป็นเพื่อรักษาสายตาให้ดีขึ้น
- ตรวจตา วัดสายตา วัดความดันตา ตรวจดูกระจกตา ความลึกของช่องหน้าลูกตาลักษณะม่านตาปฏิกริยาต่อแสงสว่าง ตรวจดูจอประสาทตา
- อธิบายให้ผู้ป่วยและญาติ หรือคนใกล้ชิด ได้เข้าใจถึงลักษณะของโรคตาการกำเนิดโรค แนวทางเลือกในการรักษา
- สำหรับผู้ป่วยที่ต้องรับการผ่าตัดต้องตรวจตาและร่างกายทั่วไป และอธิบายการดำเนินการรักษา ข้อดีข้อเสียจากการผ่าตัด และผลหลังการผ่าตัดวิธีการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการผ่าตัด ภาวะแทรกซ้อนจากยาชาหรือยาสลบ
- จักษุแพทย์ต้องติดตามผลแทรกซ้อนจากการให้ยา เช่นกลุ่มสเตียรอยด์ กลุ่มยาที่มีผลต่อไตบางตัว
- เก็บรักษาบันทึกเกี่ยวกับผู้ป่วยที่ได้ตรวจโรคตาที่เป็น และการรักษาที่ได้ให้หรือสั่ง
สภาพการจ้างงาน
ระดับการศึกษา/หน่วยงาน | ราชการ | เอกชน |
ปริญญาตรี | 15,000+ | 30,000+ |
ปริญญาโท | 17,500+ | 30,000+ |
ปริญญาเอก | 21,000+ | 30,000+ |
ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง อาจต้องมาทำงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุด อาจจะต้องมีการจัดเวรอยู่ประจำโรงพยาบาล นอกจากผลตอบแทนในรูปเงินเดือนแล้วในภาครัฐและภาคเอกชนอาจได้รับผลประโยชน์พิเศษอย่างอื่น เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินสะสม เงินช่วยเหลือสวัสดิการ ในรูปต่างๆ เงินโบนัส เป็นต้น สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาแพทย์สามารถประกอบธุรกิจส่วนตัว โดยรายได้ที่ได้รับขึ้นอยู่กับความสามารถและความอุตสาหะ
สภาพการทำงาน
ในสถานที่ทำงานจะต้องพบเห็น คนเจ็บ คนป่วย และคนตาย จึงต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง เพราะหากมีจิตใจที่อ่อนไหวต่อสิ่งที่ได้พบเห็นจะมีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานได้
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ
- สำเร็จการศึกษาทางวิชาแพทย์ และมีความรู้ทางจักษุเป็นการเฉพาะ
- ขยันสนใจในการศึกษาหาความรู้ทางวิทยาการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เป็นอย่างดี
- มีสุขภาพสมบูรณ์ ทั้งร่างกาย และจิตใจไม่พิการหรือทุพพลภาพ ปราศจากโรค
- สามารถอุทิศตนยอมเสียสละเวลาและความสุขส่วนตัว เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นที่เดือดร้อน จากการเจ็บป่วย มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่รังเกียจผู้เจ็บป่วย มีความเมตตา และมีความรัก ในเพื่อนมนุษย์ มีความเสียสละที่จะเดินทางไปรักษาพยาบาลผู้คนในชุมชนทั่วประเทศ
- มีมารยาทดี สามารถเข้ากับบุคคลอื่นได้ทุกระดับ มีความอดทน อดกลั้น และมีความกล้าหาญ
- มีความซื่อสัตย์ในวิชาชีพของตนมีคุณธรรมและจริยธรรมทางการแพทย์ ไม่ใช้ความรู้ ทางวิชาการของตนไปหลอกลวงหรือทำลายผู้อื่นๆ
ผู้สำเร็จหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายหรือประกาศนียบัตรอื่นที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบเท่าและสามารถสอบผ่านวิชาต่างๆ ในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา คือวิสามัญ 1 คณิตศาสตร์ กข. เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา ภาษาอังกฤษ กข. และความถนัดทางการแพทย์ ตลอดจนการสอบสัมภาษณ์และการตรวจร่างกาย เมื่อผ่านการทดสอบจึงมีสิทธิเข้าศึกษาแพทย์ โดยมีสถาบันที่เปิดสอนวิชาการแพทย์ระดับปริญญาหลายแห่งในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น ผู้ที่จะเรียนแพทย์ต้องมีฐานะทางการเงินดีพอสมควร เพราะค่าใช้จ่ายในการเรียนวิชาแพทย์ค่อนข้างสูง (ไม่น้อยกว่า 1 ล้าน บาทเศษต่อคน) และใช้เวลานานกว่าการเรียนวิชาชีพอื่นๆ
หลักสูตรวิชาการแพทย์ระดับปริญญาตรีตามปกติใช้เวลาเรียน 6 ปี ในสองปีแรกของหลักสูตร การเรียนจะเน้นหนักด้านวิทยาศาสตร์ทั่วไปที่เป็นพื้นฐานสำคัญ ต่อจากนั้นจึงเรียนต่อวิชาการแพทย์ โดยเฉพาะอีก 4 ปี เมื่อสำเร็จได้รับใบอนุญาตประกอบเวชกรรมของแพทยสภา มีสิทธิประกอบอาชีพแพทย์ได้ตามกฎหมาย
โอกาสในการมีงานทำ
โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
จักษุแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง อาจได้รับการว่าจ้างให้ไปทำงานในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลหลายแห่ง ทำให้ได้รับรายได้มากขึ้น
อาชีพที่เกี่ยวเนื่อง
อายุรแพทย์ ผู้ตรวจวัดสายตา และผู้เตรียมเลนซ์ประกอบแว่นตา
แหล่งข้อมูลอื่น ๆ
http://www.dms.moph.go.th